สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ต้อนรับ ดนัย ศรีวัชรเมธากุล “โค้ชด่วน” กลับคืนถิ่นอีกครั้งหลังประกาศลาออกจากตำแหน่งฯ รับผิดชอบที่พาทีมนักตบสาวไทยพลาดตั๋วไปโอลิมปิกโตเกียว 2020 การประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ของ “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล เพื่อรับผิดชอบต่อผลงานความพ่ายแพ้ของทีมสาวไทยในนัดชิงชนะเลิศ การแข่งขัน “เอสโคล่า” วอลเลย์บอลหญิง “โตเกียว 2020” รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ส่งผลให้นักตบสาวเกาหลีใต้ ชิงตั๋วเข้างานโอลิมปิกเกมส์ ณ กรุงโตเกียว ไปแทนในสกอร์ 0 – 3 เซต นั้น ไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย พร้อมประกาศให้กุนซือวัย 49 ปี ผู้นี้ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยต่อไป
สำหรับเป้าหมายต่อไปในการก้าวเข้าสู่โอลิปิกเกมส์อีก 4 ปีข้างหน้า เราต้องมีแผนในการพัฒนาทีมระยะยาว นับว่าเป็นความท้าทายสำหรับทีมนักตบสาวไทยของเราเป็นอย่างมาก การนำทีมในปีนี้จึงต้องเน้นเรื่องการเก็บตัวให้ดีขึ้นและพัฒนานักตบใหม่ๆ ขึ้นมา พร้อมรักษามาตรฐานของทีมไม่ให้ตกลงไปด้วย และขอบคุณสมาคมฯที่ยังมีความเชื่อมั่นให้ตนทำทีมชาติต่อไป “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล กล่าว
กุนซือลูกยางไทยยังกล่าวต่อไปอีกว่า “ เรื่องความพยายามเป็นปัจจัยพื้นฐานของกีฬาวอลเลย์บอล กำลังใจและการสนับสนุนของทุกๆ คนจะช่วยให้ทีมนักตบสาวไทยก้าวไปสู่จุดหมายนั้นได้ แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายในการพัฒนาเพื่อไปสู่จุดหมายนั้น และกระบวนการต่างๆ ย่อมต้องรอเวลา รอให้บางสิ่งบางอย่างใช้เวลาในการเจริญเติบโต เพื่อเป็นส่วนที่จะสนับสนุนให้เราก้าวไปสู่ระดับโลกได้อย่างสมบูรณ์แบบให้ได้
ส่วนการพยายามพัฒนาเพื่อก้าวไปสู้ศึกในอีก 4 ปีข้างหน้า เรายังไม่ได้ลงรายละเอียดกันมากนักในกระบวนการต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องยากแต่ก็ท้าทายความสามารถสำหรับทีมเราที่จะต้องพัฒนาให้ผ่านจุดนี้ไปให้ได้ เพื่อเดินเข้าสู่เป้าหมายของสมาคมฯ โดยต่อจากนี้จะได้คุยในรายละเอียดกันมากยิ่งขึ้น ด้านความเชื่อมั่นในตัว “โค้ชด่วน” ของนายกสมาคมลูกยางไทยนั้น ยังคงมั่นใจและเชื่อมั่นในความสามารถและศักยภาพของกุนซือผู้นี้ ว่ามีศักยภาพที่จะทำให้ทัพนักตบสาวไทยพัฒนาต่อไปได้ เนื่องจากมีความเข้าใจในตัวของนักกีฬาเป็นอย่างดี ซึ่งจะสามารถพัฒนาสมรรถภาพทางร่างกายของนักกีฬาให้แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สมาคมฯ ได้ตั้งแผนในการพัฒนาทัพนักตบสาวไว้คือการเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายของนักกีฬาให้แข็งแกร่งโดยการมองหานักกายภาพระดับโลกมาคอยช่วยในกระบวนการนี้ด้วย ในขณะที่ทัพนักตบลูกยางสาวไทยยังคงต้องพยายามรักษาศักยภาพของทีมให้อยู่ในอันดับ 1 ใน 4 ของเอเชียเพื่อโอกาสในการเข้าไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ และการแข่งขันชิงแชมป์โลกอื่นๆ ตลอดจนรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ไม่ให้เกินอันดับ 24 ของโลกให้ได้
สำหรับการเตรียมทีมเพื่อสู้ศึกในอีก 4 ปีข้างหน้า ที่เราจะต้องเตรียมทีมในระยะยาวกันอีก 4 ปี และปีนี้ถือว่าเป็นช่วงปรับเปลี่ยนทีมชาติไทยมากปีหนึ่งโดยเฉพาะในส่วนของนักกีฬาที่เริ่มมีอายุมากขึ้น ที่ต้องคัดเลือกนักกีฬารุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาทดแทน เพื่อจะก้าวเข้าสู่การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ให้ได้ นอกจากมองถึงการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนนักตบสาวไทยเพื่อความเป็นเลิศแล้ว เรายังเปิดโอกาสให้เยาวชนในชนบทได้มีโอกาสเล่นกีฬา แสดงศักยภาพและผลัดดันสู่ทีมชาติได้พร้อมเปิดโอกาสให้นักกีฬารุ่นเก่าที่หมดภารกิจรับใช้ชาติได้มาร่วมพัฒนาน้องๆ ในหน้าที่พี่เลี้ยงหรือผู้ช่วยผู้ฝึกสอนได้อีกด้วย ทัพนักกีฬาลูกยางสาวไทย จะลงสนามศึกแรกในรายการแข่งขัน อารีอาเกะ อารีนา เทสต์ แมตช์ โตเกียว ชาลเลนจ์ คัพ 2020 หรือรายการเทสต์ โอลิมปิก อีเวนท์ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 21-25 เมษายน 2563
